ต้นแก้วมังกรอิสราเอล: สร้างความประทับใจให้เพื่อนและครอบครัวของคุณด้วยเครื่องเทศที่สวยงามนี้ ต้นแก้วสารพัดนึก: เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ปราศจากสารตะกั่วปราศจากแคดเมียมปราศจากสารตะกั่วและแคดเมียม แก้วเจ้าจอม 10ใบ: ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่แท้จริงและเป็นส่วนเสริมที่ซับซ้อนสําหรับคอลเลกชันเครื่องแก้วของคุณ ถ้วยดินเผา10นิ้ว: ด้วยการเผาไหม้ที่สะอาดคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟได้ในเวลาไม่นานโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเผาไหม้หรือร้อนเกินไปนอกจากนี้ยังเป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสําหรับพื้นที่ใช้สอยใดๆ ไม้ ประดับ ใบแดง: ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความแข็งและความน่าเชื่อถือไม้กายสิทธิ์เหล่านี้เป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสําหรับพื้นที่ใช้สอยใดๆ. แก้วเจ้าจอม พรรณไม้ทรงพุ่มดอกหอมมีเสน่ห์มากด้วยคุณประโยชน์. ชื่อภาษาอังกฤษ. Lignum Vitage. ชื่อวิทยาศาสตร์. Guaiacum offinale Linn. แก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงกลาง เป็นไม้ผลัดใบ ลําต้นคดงอ กิ่งก้านเป็นปุ่มเป็นปม ลักษณะทรงพุ่ม มีเนื้อไม้สวยสีน้ําตาลอมเขียวถึงดํา แก่นไม้มีความแข็งแรงสูง เนื้อประสานกันแน่น. แก้วเจ้าจอม. หรือที่ชาววังเรียกกันว่า น้ําอบฝรั่ง ชื่อสามัญ: Lignum Vitage ชื่อวิทยาศาสตร์: Guaiacum offinale Linn วงศ์: Zygophyllaceae เป็นต้นไม้ทรงเสน่ห์ที่มีดีมากกว่าดอกหอมชื่นใจ แต่. พันธุ์ไม้. ชนิดนี้ยังมีต้นแตกใบพุ่มแผ่กว้าง ออกดอกเป็นสีอมม่วงหรือฟ้าครามชวนน่ามอง เรียกได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ประดับที่มีมนต์เสน่ห์ชวนน่าหลงใหลตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ และที่สําคัญยังมีความหมายมงคล หมายถึง. ไม้แห่งชีวิต Wood of life เพราะมีสรรพคุณทางสมุนไพรช่วยรักษาโรคได้หลายโรคนั่นเอง. แก้วเจ้าจอมความหมาย. เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่น ซึ่งแต่เดิมมีถิ่นกําเนิดในอเมริกากลาง, อเมริกาใต้, และในรัฐฟลอริดาของอเมริกา และยังเป็นดอกไม้ประจําชาติ ของประเทศจาไมก้า ซึ่งถูกนําเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สเด็จประพาสชวา อินโดนีเซีย แล้วพบกับต้นไม้ที่สวยงามชนิดนี้ จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้สร้าง สวนป่า และต่อมาได้พระราชทานนามว่า สวนสุนันทา อยู่ในเขตพระราชวังสวนสุนันทา ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ถูกปลูกอยู่บริเวณเนินพระนาง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งพระปิยมเหสี สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี บริเวณหลังพระบรมรูปของพระนาง และยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดอกไม้ประจํามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาอีกด้วย. ลักษณะของแก้วเจ้าจอม. แก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบ ลําต้นคดงอ กิ่งก้านเป็นปุ่มเป็นปม ลักษณะทรงพุ่ม ไม่จําเป็นต้องตัดกิ่งใดๆ ก็มักจะเป็นต้นทรงพุ่มกลมอยู่เสมอ และยังเป็น. ไม้ที่มีน้ําหนักมากที่สุดในโลก. มีเนื้อไม้ที่สวย มีลักษณะสีน้ําตาลอมเขียวถึงดํา และมีแก่นไม้ที่มีความแข็งแรงสูง เนื้อประสานกันแน่น ทําให้ไม้ชนิดนี้สามารถจมน้ําได้ ทนต่อแรงอัด และน้ําเค็ม จึงนิยมนํามาใช้ทํากรอบประกบเพลาเรือเดินทะเล หรือเพลาเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือนํามาทําเป็นของใช้ เช่น สิ่ว ลูกโบว์ลิ่ง รอก หรือแม้กระทั่งทําเป็น ขลุ่ย ซึ่งให้เสียงที่หวานใส ไพเราะมากๆ ที่เรียกว่า ขลุ่ยไม้แก้วเจ้าจอม Verawood. ดอกของแก้วเจ้าจอมออกเป็นช่วงๆตลอดปี แต่ในช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะออกดอกมากกว่าปกติ ซึ่งดอกจะมีสีอมม่วงหรือฟ้าคราม จํานวน 5-6 กลีบ มีเกสรสีเหลือง ขนาดของดอกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ส่วนช่อนั้นจะเจริญงอกงามตามลําต้น มี 30-50 ดอกต่อช่อ และค่อยๆบานเรียงกันไป ซึ่งดอกที่บานมานานกว่าจะมีสีที่ซีดจางกว่า แต่ก็กลมกลืน จากนั้นจะออกเป็นผลรูปหัวใจแบนๆ มีสีเหลืองสดใส เป็นจุดที่มีเสน่ห์ที่สุดของต้นแก้วเจ้าจอมนี้ก็ว่าได้. สายพันธุ์ของแก้วเจ้าจอม. สายพันธุ์ของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ถูกแบ่งตามลักษณะใบ ซึ่งเป็นแบบใบประกอบขนนก มีใบย่อยเรียงกันเป็นคู่ 2-4 คู่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า 4 ใบ, 6 ใบ, 8 ใบ. แก้วเจ้าจอม 4 ใบ. มีลักษณะเป็นใบย่อย 2 คู่ ปลายใบมน ขอบเรียบ ใบย่อยคู่มีขนาดปลายใหญ่ที่สุด ใบย่อยคู่ถัดมาจะมีขนาดเล็กไล่ลงไปเรื่อยๆ เนื้อใบเหนียว และหนา มีผิวใบเป็นสีมันเขียวเข้ม. แก้วเจ้าจอม 6 ใบ. มีลักษณะเป็นใบย่อย 3 คู่ ลักษณะไม่ต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบ แต่จะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วกว่า สามารถออกดอกได้ภายใน 1 ปี จึงทําให้เป็นสายพันธุ์ที่คนนิยมปลูกกันมากที่สุด. แก้วเจ้าจอม 8 ใบ. มีลักษณะเป็นใบย่อย 4 คู่ ลักษณะใบไม่ต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบและ 6 ใบ แต่จะต่างกันที่ขนาดดอก ที่จะมีความเล็กกว่ามาก มีการเจริญเติบโตที่ช้า และใช้เวลามากกว่า 5 ปี ในการออกดอก จึงเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม และหายากนั่นเอง. วิธีการปลูกแก้วเจ้าจอม. แก้วเจ้าจอมนิยมปลูกในบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง หรือมีสนามหญ้า เพราะเมื่อออกเป็นพุ่มต้นใหญ่แล้วจะแผ่กิ่งก้าน ให้ร่มเงาได้ดี และต้นไม้ชนิดนี้ยังชอบแสงแดดถ้าได้แสงที่เพียงพอก็จะทําให้ทรงพุ่มสวย และจะช่วยให้ออกดอกดกได้มากยิ่งขึ้น. การปลูกนิยมเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว เพราะจะมีลําต้น และรากแก้ว ยึดเกาะและดูดซับได้ดีกว่าการขยายพันธุ์ในลักษณะอื่นๆ เช่น ตอนกิ่ง ต่อกิ่ง ชํา ก็จะติดได้ยากมากๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 5 ปีเลยทีเดียว. การปลูกแก้วเจ้าจอมในกระถาง ยังทําให้เติบโตช้า และไม่ค่อยออกดอก ถ้าเลือกปลูกในกระถางควรเลือกปลูกจากต้นที่ได้รับการตอนกิ่ง ซึ่งจะออกดอกน้อยกว่าการปลูกลงบนดิน จึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนําสําหรับปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้. พันธุ์ไม้ชนิดนี้ ชอบดินร่วน ระบายน้ําได้ดี มีอากาศที่ถ่ายเท และชอบพื้นดินที่ชุ่มฉ่ํา เต็มไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนา กําแพงแสน มีสูตรดินปลูกแก้วเจ้าจอม. คือ ใช้ดินร่วน, เปลือกมะพร้าวสับ, ใบไม้แห้ง, ขี้วัว อย่างละ 1 ส่วน ผสมเข้าด้วยกัน รดน้ําให้พอมีความชื้นหมาดๆ แล้วหมักไว้ 1-2 เดือน และนํามาใช้ เพียงเท่านี้ก็จะมีต้นแก้วเจ้าจอมที่เจริญงอกงามดีแล้ว. ข้อควรระวัง คือ อย่าให้ขาดน้ํา เพราะจะทําให้ต้นโทรม ใบเหลือง ร่วง